IELTS TOEIC TOEFL SAT ACT GED คืออะไร? สอบทำไม? สำคัญอย่างไร?
จำนวนผู้เข้าชม 2,176>> IELTS คือ ข้อสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษ English Test Language Skills โดยวัด 4 ทักษะ คือ การฟัง (Listening) การอ่าน (Reading) การเขียน (Writing Task 1 & Task 2) และ การพูด (Speaking Part 1 2 3) โดยการสอบ IELTS จะมี 2 แบบคือ Academic , General Training โดย Band Score เต็ม 9 คะแนน
>> IELTS IDP คือ ข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษที่จัดสอบโดยศูนย์สอบ IDP Education Service ซึ่งคำว่า IELTS ย่อมาจาก International English Language Testing System ข้อสอบมีทั้งหมด 4 พาร์ท ได้แก่ Listening, Reading, Writing และ Speaking ข้อสอบ IELTS คะแนนเต็ม 9.0 ผลคะแนนมีอายุ 2 ปี
>> IELTS British Council คือ ข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษที่จัดสอบโดยศูนย์สอบ British Council ข้อสอบ IELTS British Council มีทั้งหมด 4 พาร์ท ได้แก่ การฟัง (Listening) การพูด (Speaking) การอ่าน (Reading) และการเขียน (Writing) IELTS คะแนนเต็ม 9.0 ผลสอบมีอายุ 2 ปี
>> TOEIC คือ ข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ ย่อมาจากคำว่า Test of English for International Communication ข้อสอบมีทั้งหมด 200 ข้อ คะแนนเต็ม 990 คะแนน แบ่งเป็นพาร์ท Listening และ Reading คะแนนสอบ TOEIC มีอายุ 2 ปี ค่าสอบ 1,800 บาท ศูนย์สอบมีทั้งที่กรุงเทพฯและเชียงใหม่ โดยเปิดให้สอบได้ทุกวันจันทร์-เสาร์ (ปิดทำการทุกวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ในแต่ละวันมีรอบสอบ 2 รอบ แบ่งเป็นรอบเช้า 09.00 – 12.00 น. และรอบบ่าย 13.00 – 16.00 น.
>> GED คือ การสอบเทียบ ม.ปลาย ข้อสอบ มี 4 วิชา คือ RLA , Science , Social Studies , Math คะแนนเต็มวิชาละ 200 คะแนน ต้องได้ 145 คะแนน ขึ้นไปถึงจะสอบผ่าน โดยข้อสอบทั้ง 4 วิชา ได้ถูกพัฒนาโดย Pearson สำหรับค่าสอบจะอยู่ที่ $60/วิชา
>> SAT คือ การทดสอบการใช้เหตุผล SAT เป็นข้อสอบมาตรฐานสำหรับการรับบุคคลเข้าศึกษาในสถานบันอุดมศึกษา หลักสูตรนานาชาติ ทั้งนี้ การสอบ SAT ทีได้รับการพัฒนาโดย College Board ซึ่งองค์การองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร
>> Digital SAT คือ การสอบที่เปลี่ยนจากการสอบ Papers-Based SAT โดยการใช้กระดาษดินสอ 2B เปลี่ยนมาเป็นการทำข้อสอบบนออนไลน์ ผ่านอุปกรณ์ เช่น Tablet , Notebook แทน และยังมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องอื่นๆ เช่น เนื้อหาที่สอบ, เวลาที่ใช้สอบ และ ที่สำคัญคือ ข้อสอบ Digital SAT จะเป็นแบบ Adaptive Testing
>> CU-AAT คือ ข้อสอบที่ใช้วัดความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ Mathematics และภาษาอังกฤษ Verbal ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้เพื่อพิจารณาผู้ยื่นเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ
>> CU-ATS คือ ข้อสอบความถนัดในด้านวิทยาศาสตร์ของทางมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ คะแนนรวม 1,600 คะแนน ประกอบด้วย 2 วิชา ได้แก่ เคมี และ ฟิสิกส์
>> CU-TEP คือ ข้อสอบทดสอบความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษา ซึ่งใช้ยื่นทั้งในระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษา จัดสอบโดยศูนย์ทดสอบทางวิชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย CU-TEP ข้อสอบจะประกอบไปด้วยการวัดทักษะด้านการฟัง การอ่าน และการเขียน
>> CU-BEST คือ แบบทดสอบความถนัดทางธุรกิจแนว GMAT สำหรับใช้เป็นหลักฐานในการสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตรต่างๆในระดับปริญญาโท/เอก ของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ข้อสอบคำถามภาษาไทย กับ ภาษาอังกฤษ
>> IGCSE คือ ข้อสอบเทียบของระบบการศึกษาอังกฤษ สำหรับน้องที่สอบเทียบ จะได้วุฒิเทียบเท่ากับ ม.4 ของประเทศไทย น้องที่จะสมัครสอบ ต้องมี อายุ 14 -16 โดย จะมีสอบ ปีละ 2 ครั้งรอบแรก ช่วงเดือนพฤษภาคม และ รอบที่2 ช่วง เดือนตุลาคม
>> TU-GET คือ รูปแบบการทดสอบเพื่อวัดทักษะและความรู้ในรายวิชาภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อนำคะแนนที่ได้ไปยื่นสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรีขึ้นไป ทั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วมักใช้กับภาคอินเตอร์ แต่ก็มีบางคณะที่เน้นภาษาอังกฤษก็จะต้องถูกประเมินด้วยคะแนนสอบนี้ด้วยเช่นกัน
>> SMART-II คือ รูปแบบการทดสอบเพื่อวัดความรู้ในด้านวิชาการในด้านบริหารธุรกิจสำหรับผู้ที่สนใจเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
>> TGAT คือ การสอบเพื่อวัดสมรรถนะทั่วไป ย่อมาจาก Thai General Aptitude Test คะแนนจะเป็นส่วนหนึ่งในการยื่นสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยในระบบ TCAS เนื้อหาการสอบ ได้แก่ ด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ การใช้เหตุผลเชิงปริมาณ การคิดอย่างมีตรรกะ และสมรรถนะการทำงานในอนาคต ซึ่งผู้สอบต้องสอบหมดทั้ง 3 พาร์ท พาร์ท ละ 100 คะแนน รวมคะแนนเต็ม 300 คะแนน
>> TPAT คือ การสอบวัดความถนัดวิชาชีพ ย่อมาจาก Thai Professional Aptitude Test ซึ่งมีทั้งหมด 5 กลุ่ม ครอบคลุมทั้งทางด้านแพทย์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมฯ ครุศาสตร์ สถาปัตยกรรม และความถนัดทางด้านศิลปกรรม โดย คะแนนเต็ม 100 คะแนน
>> A-Level คือ หลักสูตรการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของอังกฤษ มีรายวิชาให้เลือกเรียนมากกว่า 50 วิชา โดยน้องๆสามารถเลือกได้อย่างอิสระ มีทั้งในหมวดภาษาอังกฤษ ภาษาอื่นๆ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สังคม ศิลปะ และการศึกษาทั่วไป เป็นต้น โดยปีหนึ่งจะมีการสอบ เพียง 2 ครั้ง
>> TOEFL คือ ข้อสอบภาษาอังกฤษตามแบบมาตรฐานของอเมริกัน ย่อมาจาก Test of English as a Foreign Language ข้อสอบจะทดสอบความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ 4 ทักษะ การฟัง (Listening) การอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) และการพูด (Speaking) ซึ่งจะมีการสอบครบทั้ง 4 ทักษะ หรือมีสอบแค่เป็นบางทักษะก็จะขึ้นอยู่กับประเภทของการสอบ TOEFL
>> TOEFL ITP คือ ข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ แบ่งออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่ Level 1 (intermediate to advanced) และ Level 2 (high beginning to intermediate) โดยในประเทศไทยจะนิยมการสอบ Level 1 มากกว่า ซึ่งเนื้อหาในข้อสอบนั้นจะประกอบไปด้วย 3 พาร์ท ได้แก่ Listening comprehension, Structure and Written Expression และ Reading Comprehension มีคำถามทั้งหมด 140 ข้อ ให้เวลาทำข้อสอบ 115 นาที มีคะแนนเต็มอยู่ในช่วงระหว่าง 310 – 677 คะแนน
>> TOEFL iBT คือ ข้อสอบภาษาอังกฤษตามแบบมาตรฐานของอเมริกันที่จัดสอบโดย ETS ข้อสอบจะมีทั้งหมด 4 พาร์ท คือ พาร์ทการฟัง (TOEFL Listening) การอ่าน (TOEFL Reading) การเขียน (TOEFL Writing) และการพูด (TOEFL Speaking) มีคะแนนเต็ม 120 คะแนน เป็นการทำข้อสอบแบบคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์สอบ ผลคะแนนมีอายุ 2 ปี ตารางสอบมีเปิดให้สมัครทุกเดือน
>> AP คือ ประเภทของการทดสอบเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าเรียนระดับปริญญาตรี เป็นหลักสูตรของทางสหรัฐฯ ดำเนินการโดย College Board หน่วยงานเดียวกับการออกข้อสอบ SAT แนวทางจะถูกใช้สำหรับคนที่เรียนโครงการหลักสูตรล่วงหน้าในระดับมัธยมปลาย ส่วนมากหลักสูตร AP มักนิยมใช้กับกลุ่มโรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนอินเตอร์ในประเทศไทย
>> IB คือ หลักสูตรการศึกษาเทียบเท่าได้กับการเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้รับการยอมรับจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอย่างแพร่หลาย ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีโรงเรียนนานาชาติหลายๆแห่งที่ใช้แนว ข้อสอบ IB diploma
>> ACT คือ ข้อสอบที่วัดทักษะการใช้เหตุผล การแก้ปัญหา การวิเคราะห์ การสื่อสาร มีทั้งหมด 5 วิชาคือ English , Math , Reading , Science , Writing ตัวข้อสอบและคะแนน ACT เป็นที่ยอมรับในการใช้ยื่นเข้ามหาลัย เช่นเดียวกับ คะแนน SAT
>> GRE คือ ข้อสอบสำหรับผู้ที่ต้องการจะสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา (Graduate schools) มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Graduate Record Examination ข้อสอบจะทดสอบ ( Test Content ) ดังนี้ Analytical Writing, Verbal Reasoning และ Quantitative Reasoning ให้เวลาทำข้อสอบทั้งหมด 3 ชั่วโมง 45 นาที
>> GMAT คือ รูปแบบการทดสอบเพื่อวัดทักษะของคนที่วางแผนในการเรียนต่อระดับปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ ของหลายสถาบันในสหรัฐอเมริกา รวมถึงใครที่อยากเข้าเรียนคณะ MBA ระดับปริญญาโทของเมืองไทย
>> BMAT คือ ข้อสอบเฉพาะทางสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในสาขา แพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดสอบโดย Cambridge Assessment Admissions Testing ทั้งนี้ คะแนน บีแมท จำเป็นสำหรับใช้ยื่นเข้ามหาลัยหลักสูตรอินเตอร์ และหลักสูตรไทย ในระบบ TCAS รอบ Portfolio โดยไม่ต้องสอบของ กสพท
อัปเดตเมื่อ : 17 พ.ค. 2564 (00:00)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าว ⋅ May 17, 2021
ข่าว ⋅ May 17, 2021
ข่าว ⋅ May 17, 2021